กุ้งผัดผงกระหรี่ 1st
ขั้นตอน
เตรียมน้ำราด ผสมทุกส่วนผสมน้ำราดเข้าด้วยกัน แล้วคนให้เข้ากัน
นำกุ้ง Defrost 5 นาที แกะเปลือก-หัว
ความร้อน 160 องศา C ทอดเนื้อกุ้งพอสุก แยกไว้
ใช้น้ำมันผัดหัวกุ้งต่อ 3 นาที ไฟอ่อน เพื่อให้น้ำมันเข้มข้นขึ้น แยกหัวกุ้งขึ้นมา
ใส่หอมใหญ่สับ ผัดต่อ พอหอม 2 นาที
ใส่กะเทียมผัดต่อพอหอม 2 นาที
ใส่น้ำราด ผัดต่อ พอสุก 2 นาที
ใส่เนื้อกุ้งผัดให้สุกและเข้าเนื้อ 4 นาที
ใส่ผักหอมใหญ่หั่นชิ้น ผัดชีต้นหอง พริกชี้ฝ้าหั่นเส้น คลุกพอเข้ากัน 1 นาที
ผลลัพท์ OK ประทับใจ 5/10 กลิ่นน้ำพริกเผานำเยอะ ยังค่อนข้างแฉะ
แนวทางปรับปรุงครั้งหน้า
- เพิ่มความแรงไฟและปริมาณน้ำมันตอนแยกทอดเนื้อกุ้ง แม้ว่ากุ้งจะไม่เย็นมาก
แต่พอใส่ไปผัดอุณหภูมิน้ำมันลดไปเยอะเห็นๆ ถ้ารักษา 160 องศาC ไว้ได้น่ากรอบนอก
นุ่มใน สัมผัสดีกว่าเดิม
- เพิ่มผงกระหรี่อีก ให้สมดุลกับน้ำพริกเผา
- ลดปริมาณนมสด เพื่อให้แห้งเร็วขึ้น
- ส่วนผสมเนยในน้ำราด ย้ายใส่ในขึ้นตอนผัดก่อนใส่เนื้อกุ้ง กลิ่นน่าจะดีขึ้น หรือตีรวมกับเฉพาะไข่แดงก่อน
- น้ำพริกเผาในน้ำราด ตีรวมกับเฉพาะไข่แดงก่อน หรือ ย้ายใส่ในขึ้นตอนผัดก่อนใส่เนื้อกุ้ง
- ผงขมิ้นตรามือที่ 1 กลิ่นยังไม่โดนมาก มีหลายยี่ห้อ ส่วนผสม ต่างกัน บางรุ่นมีผสมลูกผักชีด้วยน่าลอง
- เพิ่มความแรงไฟ โดยรวมลดเวลาการทำโดยรวมลงได้
Cooking
Wednesday, October 22, 2014
Friday, December 9, 2011
Thursday, December 1, 2011
ทดลอง Tiramisu ครั้งที่ 2 [ไทย] Dec 2011
ได้โอกาสทดลองทิรามิสุ อีกครั้ง ปรับสูตรจากเดิม โดยใช้สูตรที่ยุ่งยากขึ้น
เริ่มโดยนำไข่แดงไปตีกับน้ำตาลบนน้ำเดือด จนฟูขาว ใส่ชีสและครีม
เหล้าคาลัวและกาแฟมาชุบเลดีฟิงเกอร์แบบหวานเรียง 2 ชั้น
ข้อผิดพลาดคือ เลดี้ฟิงเกอร์รอนี้หวานเกิน , ส่วนชีสไม่อยู่ตัวเพราะตีมากไป รอปรับครั้งหน้า
เริ่มโดยนำไข่แดงไปตีกับน้ำตาลบนน้ำเดือด จนฟูขาว ใส่ชีสและครีม
เหล้าคาลัวและกาแฟมาชุบเลดีฟิงเกอร์แบบหวานเรียง 2 ชั้น
ข้อผิดพลาดคือ เลดี้ฟิงเกอร์รอนี้หวานเกิน , ส่วนชีสไม่อยู่ตัวเพราะตีมากไป รอปรับครั้งหน้า
Tuesday, November 29, 2011
ทดลอง Tiramisu แบบง่าย [ไทย]
ทดลองทำ ครั้งแรก Nov 2011 เพื่อชิมรสดูก่อน ค่อยปรับอีกที เอาสูตรง่ายสุดตามข้างซองเลดี้ฟิงเกอร์ ทำเสร็จเอาออกจากกล่องยากทีเดียว สูตรนี้เหล้าเข้มมากมาก สงสัยชุบกาแฟชุ่มไปหน่อย
ส่วนผสม
มาสคาร์โพนชีส
เหล้าคาลัว เหล้ารัมกลิ่มกาแฟ จากแม็กซิโก แอลกอฮอล์ร้อยละ 26.5 ขวดนี้เก็บไว้นานไม่ต่ำกว่า 10 ปี
เลดี้ฟิงเกอร์ ขนมปังแข็งๆ ที่พอดูดน้ำเข้าไปหน่อยจะนิ่มป๋อยเป็นเนื้อเค้กเลย
ส่วนผสม
มาสคาร์โพนชีส
เหล้าคาลัว เหล้ารัมกลิ่มกาแฟ จากแม็กซิโก แอลกอฮอล์ร้อยละ 26.5 ขวดนี้เก็บไว้นานไม่ต่ำกว่า 10 ปี
เลดี้ฟิงเกอร์ ขนมปังแข็งๆ ที่พอดูดน้ำเข้าไปหน่อยจะนิ่มป๋อยเป็นเนื้อเค้กเลย
Monday, October 24, 2011
อ่างผสมไอศกรีมทำเอง
นำน้ำมาผสมเกลือป่น สัดส่วน น้ำต่อเกลือ 4:1 (น้ำหนัก)
ใช้กะละมัง 2 ชั้น ใส่น้ำเกลือที่ผสมแล้ว ไว้ชั้นนอก หาของหนักๆ ถ่วงให้กะละมังชั้นในจม แช่ช่องแข็ง
จนเป็นน้ำแข็งก็จะได้ อ่างผสมไอศกรีม (ที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส)
ใช้กะละมัง 2 ชั้น ใส่น้ำเกลือที่ผสมแล้ว ไว้ชั้นนอก หาของหนักๆ ถ่วงให้กะละมังชั้นในจม แช่ช่องแข็ง
จนเป็นน้ำแข็งก็จะได้ อ่างผสมไอศกรีม (ที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส)
Wednesday, September 21, 2011
บลูเบอรี่ นิวยอร์ค ชีส คัพ เค้ก [ไทย]
บลูเบอรี่นิวยอร์คชีสคัพเค้ก 22/9/2554
ความเป็นนิวยอร์คชีสเค้ก สำคัญอยู่ที่ส่วนผสมหลักที่ใช้คือครีมชีส ต้นแบบชีสเค้กชนิดนี้ คิดค้นขึ้นร่วมกับการสร้างครีมชีสรุ่นใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ในปี 1872โดย วิลเลี่ยม ลอเลนซ์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง ชีสยี่ห้อที่ยังคงดังอยู่ "ฟิลาเดลเฟีย"
ส่วนผสม สำหรับ พิมพ์ถ้วยขนาด 100 มิลลิลิตร 5 ถ้วย
ส่วนผสมขนมปังกรุพิมพ์
ส่วนผสมชีส
ส่วนผสมบลูเบอรี่ราดหน้าเค้ก
ขึ้นตอนการทำ
- เตรียมและชั่งตวงส่วนผสมทุกชนิด ให้ครบถ้วน
- เปิดเตาอบตั้งอุณหภูมิ 180 °C
- อุ่นครีมชีสให้อ่อนตัว ด้วยไมโครเวฟ กำลังไฟ 100 W จนอ่อนตัว
- ละลายเนยสด ด้วยไมโครเวฟ กำลังไฟ 100 W จนละลายซักครึ่งหนึ่งและนำมาคนต่อจนละลายทั้งหมด
- ใส่ไดเจสทีฟบิสกิตลงในถุงร้อน บดจนละเอียด เทใส่ชามและผสมเนยสดที่ละลายแล้วลงไป ผสมให้เข้ากัน
- ทาเนยขาวกันพิมพ์ติดที่ก้นพิมพ์ นำไดเจสทีฟบิสกิตที่ผสมเนยแล้วมากรุลงในพิมพ์ และนำไปอบที่อุณหภูมิ 180 °C จนผิวหน้าเกรียม ประมาณ10 นาที นำพิมพ์ออกมาพักให้เย็น
- เปิดเตาอบตั้งอุณหภูมิ 150 °C
- ตีไข่แดง และน้ำตาล น้ำเลมอน กลิ่นวนิลา กลิ่นเลมอน วิปปิ้งครีม แป้งสาลีเอนกประสงค์ ตีจนเข้ากันดี ใส่ ครีมชีส ผิวเลมอน ตีจนเข้ากันดี
- ทาเนยขาวด้านข้างพิมพ์ เทส่วนผสมชีสใส่พิมพ์ ที่อุณหภูมิ 150 °C 15 นาที แล้วลดอุณหภูมิลงเหลือ 110 °C อบต่อพอให้หน้าเค้กตึงๆ ประมาณ 30 นาที
- นำชีสเค้ก ออกจากเตาอบพักไว้จนเย็นประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้เซ็ทตัวประมาณ 6-24 ชั่วโมง
- นำออกจากตู้เย็นใช้มีดกรีดรอบๆ และคว่ำให้เค้กหลุดออกมาก พลิกเค้กกลับและราดบลูเบอรรี่ท็อปปิ้งให้ทั่ว
อุปกรณ์สิ้นเปลือง
เนยขาวสำหรับทาพิมพ์
อุปกรณ์
เตาอบ
ตู้เย็น
ช้อนตวง
เครื่องชั่ง
ที่ขูดผิวมะนาว
ชาม
พิมพ์
ที่เปิดกระป๋อง
เครื่องตีไข่
ช้อน
ไม้พาย
ถุงร้อน
เตาไมโครเวฟ
มีด
พู่กัน
ครีมชีส [ฟิลาเดลเฟีย]
บลูเบอรี่ท็อปปิ้ง [ไวด์เดอร์เนส]
ไดเจสทิฟบิสกิต [มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์]
เนยสด ชนิดจืด [ออร์คิด]
น้ำตาลป่น [ลิน]
แป้งสาลีเอนกประสงค์ [ว่าว ยูเอฟเอ็ม]
ความเป็นนิวยอร์คชีสเค้ก สำคัญอยู่ที่ส่วนผสมหลักที่ใช้คือครีมชีส ต้นแบบชีสเค้กชนิดนี้ คิดค้นขึ้นร่วมกับการสร้างครีมชีสรุ่นใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ในปี 1872โดย วิลเลี่ยม ลอเลนซ์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง ชีสยี่ห้อที่ยังคงดังอยู่ "ฟิลาเดลเฟีย"
ส่วนผสม สำหรับ พิมพ์ถ้วยขนาด 100 มิลลิลิตร 5 ถ้วย
ส่วนผสมขนมปังกรุพิมพ์
ไดเจสทิฟบิสกิต | 100 | กรัม |
เนยสด ชนิดจืด | 25 | กรัม |
ส่วนผสมชีส
ครีมชีส | 250 | กรัม |
น้ำตาลป่น | 60 | กรัม |
แป้งสาลีเอนกประสงค์ | 2 | ช้อนชา |
ผิวเลมอนขูด | 1 | ช้อนชา |
น้ำเลมอน | 2 | ช้อนชา |
ไข่แดงของไข่ไก่เบอร์ 1 | 2 | ฟอง |
กลิ่นวนิลา | ½ | ช้อนชา |
กลิ่นเลมอน | ½ | ช้อนชา |
วิปปิ้งครีม | 20 | กรัม |
บลูเบอรี่ท็อปปิ้ง | 200 | กรัม |
ส่วนผสมบลูเบอรี่ราดหน้าเค้ก
บลูเบอรี่ท็อปปิ้ง | 200 | กรัม |
ขึ้นตอนการทำ
- เตรียมและชั่งตวงส่วนผสมทุกชนิด ให้ครบถ้วน
- เปิดเตาอบตั้งอุณหภูมิ 180 °C
- อุ่นครีมชีสให้อ่อนตัว ด้วยไมโครเวฟ กำลังไฟ 100 W จนอ่อนตัว
- ละลายเนยสด ด้วยไมโครเวฟ กำลังไฟ 100 W จนละลายซักครึ่งหนึ่งและนำมาคนต่อจนละลายทั้งหมด
- ใส่ไดเจสทีฟบิสกิตลงในถุงร้อน บดจนละเอียด เทใส่ชามและผสมเนยสดที่ละลายแล้วลงไป ผสมให้เข้ากัน
- ทาเนยขาวกันพิมพ์ติดที่ก้นพิมพ์ นำไดเจสทีฟบิสกิตที่ผสมเนยแล้วมากรุลงในพิมพ์ และนำไปอบที่อุณหภูมิ 180 °C จนผิวหน้าเกรียม ประมาณ10 นาที นำพิมพ์ออกมาพักให้เย็น
- เปิดเตาอบตั้งอุณหภูมิ 150 °C
- ตีไข่แดง และน้ำตาล น้ำเลมอน กลิ่นวนิลา กลิ่นเลมอน วิปปิ้งครีม แป้งสาลีเอนกประสงค์ ตีจนเข้ากันดี ใส่ ครีมชีส ผิวเลมอน ตีจนเข้ากันดี
- ทาเนยขาวด้านข้างพิมพ์ เทส่วนผสมชีสใส่พิมพ์ ที่อุณหภูมิ 150 °C 15 นาที แล้วลดอุณหภูมิลงเหลือ 110 °C อบต่อพอให้หน้าเค้กตึงๆ ประมาณ 30 นาที
- นำชีสเค้ก ออกจากเตาอบพักไว้จนเย็นประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้เซ็ทตัวประมาณ 6-24 ชั่วโมง
- นำออกจากตู้เย็นใช้มีดกรีดรอบๆ และคว่ำให้เค้กหลุดออกมาก พลิกเค้กกลับและราดบลูเบอรรี่ท็อปปิ้งให้ทั่ว
อุปกรณ์สิ้นเปลือง
เนยขาวสำหรับทาพิมพ์
อุปกรณ์
เตาอบ
ตู้เย็น
ช้อนตวง
เครื่องชั่ง
ที่ขูดผิวมะนาว
ชาม
พิมพ์
ที่เปิดกระป๋อง
เครื่องตีไข่
ช้อน
ไม้พาย
ถุงร้อน
เตาไมโครเวฟ
มีด
พู่กัน
ครีมชีส [ฟิลาเดลเฟีย]
บลูเบอรี่ท็อปปิ้ง [ไวด์เดอร์เนส]
ไดเจสทิฟบิสกิต [มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์]
เนยสด ชนิดจืด [ออร์คิด]
น้ำตาลป่น [ลิน]
แป้งสาลีเอนกประสงค์ [ว่าว ยูเอฟเอ็ม]
Subscribe to:
Posts (Atom)